“สังคมก้มหน้า”
คำๆ นี้หลายคนที่ได้ยินน่าจะร้อง “อ่อ” ขึ้นมาทันที ปัจจุบันไม่ว่าจะเดินทางไปไหนมาไหนหรือว่ามองไปที่คนรอบข้างมักจะเห็นแต่ละคนต่างนั่งก้มหน้าอยู่กับหน้าจออุปกรณ์สื่อสารของตัวเองกันแทบทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเวลาใด ยกตัวอย่างง่ายๆ เลยเช้ามาทุกคนมีภาระต่างๆ เพียงระยะเวลาที่เรานั่งรอรถเมล์ เดิน ภาพที่เหมือนกันไม่ว่าจะอยู่ส่วนไหนหรือทำอะไร คือ ทุกคนล้วนแต่มีโทรศัพท์มือถือ ไอแพด ไอโฟน ฯลฯ ต่างก็สนใจกับสิ่งเหล่านี้ ทุกนาทีต้อง กดไลน์ ส่งสติ๊กเกอร์ จนแอพริเคชั่นเหล่านี้เข้ามาแทรกแซงทุกกิจกรรม และทุกเวลาของคนเราในปัจจุบัน เราต่างก็ปฎิเสธไม่ได้ว่า เทคโนโลยีและโลกแห่งโซเซียลต่างๆ มีประโยชน์ ในหลายๆ ด้าน คนที่อยู่คนละฝั่งของโลกสามารถติดต่อสื่อสารกันได้เพียงเสียววินาที เหมือนกับที่หลายคนกล่าวว่า “อยู่ไกลก็เหมือนอยู่ใกล้” แต่คนที่อยู่ใกล้กับรู้สึกว่าอยู่ไกลซะงั้น
จะเห็นได้ว่า สมาร์ทโฟนทั้งหลายได้กลายเป็นสิ่งจำเป็นในชีวิตประจำวันของคนส่วนใหญ่หรือคนทั่วโลกไปแล้ว ตั้งแต่วัยเด็ก วัยรุ่น วัยทำงาน ไปจนถึงผู้สูงวัยทั้งหลาย ผลกระทบที่ตามมาจากการที่ทุกคนให้ความสำคัญกับสมาร์ทโฟนเหล่านี้ก็คือ ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลในสังคมระดับต่างๆ ลดลงไปจนถึงขั้นย่ำแย่
ในอดีตหลังกลับจากโรงเรียนและการทำงาน ครอบครัว พ่อแม่ลูก จะมีการสนทนา พูดคุย ในเวลาอาหารเย็น หรือก่อนนอนเพื่อพูดคุย ถามเกี่ยวกับสถานการณ์ต่างๆ เช่น วันนี้ลูกเรียนเป็นอย่างไรบ้าง คุณพ่อคุณแม่ทำงานเหนื่อยไหม แต่ในปัจจุบันบางครอบครัวหากจะพูดคุยกับลูก พ่อแม่ต้องถึงกับโหลดแอฟ โปรแกรมต่างๆ เลยทีเดียว แม้แต่ระหว่างมื้ออาหารต่างคนก็ก้มหน้าก้มตา จิ้มๆ สไลด์ กับสิ่งที่อยู่ตรงหน้า จนทำให้การติดต่อสื่อสารกับคนใกล้ตัวค่อยๆ หายไป และยังมีปัญหาด้านสุขภาพ เช่น ปัญหาทางด้านสายตา นิ้วล็อค ปวดหลัง ปวดคอ และรวมถึงปัญหาทางสุขภาพจิตใจที่เราหมกมุ่นสิ่งเหล่านี้มากเกินไป ในเมื่อเราต้องอยู่กับเทคโนโลยีนี้จึงต้องเรียนรู้ที่จะใช้งานและควบคุมมันให้ได้อย่าให้เทคโนโลยีมาควบคุมเรา…!! หันมาคุยและใส่ใจกับคนรอบข้างก่อนทุกอย่างจะสายเกินไป…