คำว่าครู เปรียบเสมือนเรือจ้าง คำนี้คงเหมาะสำหรับอาชีพครูในสถานศึกษา แต่กรณีที่จะพูดถึงในวันนี้ คือคำว่า ครู หรือเทรนเนอร์ คนสอน หัวหน้างาน ในการงานอาชีพของคนเรา ถ้าจะให้เปรียบแล้ว คงพอจะเปรียบได้กับ ผู้ชี้นำหลักในการทำงานก็คงจะพอได้
ผู้สอน หัวหน้างาน หรือรุ่นพี่นั้น มีหน้าที่สอนงานให้กับพนักงานที่เข้ามาใหม่ ไม่เพียงแต่สอนในเรื่องหน้าที่การงานที่ต้องรับผิดชอบเท่านั้น แต่หัวหน้างานหรือรุ่นพี่ ยังต้องสอนให้เรียนรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรมขององค์กร หลักการเล็กๆน้อยๆในการปฏิบัติงานให้ประสบผลสำเร็จสูงสุด ทั้งนี้ รุ่นพี่หรือหัวหน้างานนั้นบางทีก็สอนด้วยความไม่เต็มใจ หรือกั๊กเวลาสอนงาน คือปล่อยไม่หมด ปล่อยให้รุ่นน้องเรียนรู้ได้ด้วยตนเอง แต่สำหรับบางคนก็สอนจนหมดเปลือก ไม่ว่าจะเป็นเกร็ดเล็กเกร็ดน้อย ไม่ใช่แต่เพียงวิธีการทำงานเท่านั้น ยังรวมไปถึงการปฏิบัติตนอย่างไรให้การทำงานของรุ่นน้องนั้นไม่สะดุดหรือประสบกับปัญหา ถือได้ว่า ไม่ว่าจะรุ่นพี่จะสอนยังไง สามารถอนุมานได้ว่า การสอนของรุ่นพี่ หัวหน้างานนั้นๆ ขึ้นอยู่กับบุคลิกการแสดงออกของแต่ละบุคคล บางคนใจเย็น ก็จะค่อยๆบอกค่อยๆสอนไป แม้ว่ารุ่นน้องจะทำความเข้าใจได้ยาก หรือคิดไม่ทัน แต่คนบุคลิกใจเย็นก็จะไม่ถือเอามาเป็นอารมณ์ แต่บางคนบุคลิกฉุนเฉียว พูดจาไม่เข้าหู อาจจะทำให้รุ่นน้องรู้สึกไม่ชอบใจได้บ้าง แต่ก่อนที่จะกล่าวโทษว่าคนสอนไม่ดีนั้น เราคงจะต้องกลับมามองดูตัวตนของเราก่อน ว่าเราเตรียมตัวมาดีมากเพียงไหนในการเริ่มงานที่ใหม่ เราเข้าใจกับระบบงานได้ไวอย่างที่คนสอนเขาต้องการหรือไม่ คนเราพื้นฐานของการทำความเข้าใจต่างกัน แต่เราได้แสดงให้เขารู้แล้วหรือยังว่าเราพยายามอย่างดีที่สุดแล้ว ไม่เข้าใจก็หมั่นถาม แต่ไม่ใช่ถามในคำถามเดิมๆ ซ้ำๆ เวลาหัวหน้างาน หรือรุ่นพี่บอกมาแล้ว แทนที่เราจะจดแล้วทำความเข้าใจกับมัน เผื่อว่าครั้งหน้าจะได้ไม่ต้องถามอีกในคำถามเดิมๆ แต่เราเลือกที่จะจำเพียงแต่อย่างเดียว เพราะอาจจะเชื่อมั่นว่าความจำของตนเองเป็นเลิศ แต่อย่าลืมว่า เวลาเราเปลี่ยนงาน ระบบแต่ละที่ไม่เหมือนกัน วัฒนธรรมองค์กรยิ่งต่างกัน วันแรกๆที่เราได้เรียนงานนั้น เราจะมีความรู้สึกมึนงง เหมือนฟังหูซ้ายทะลุหูขวา ทั้งที่พยายามแสดงศักยภาพของความจำของตน ทว่านอกจากจะจำอะไรไม่ได้แล้ว ยังอาจจะรู้สึกง่วงแบบสุดๆ นั่นเพราะว่า สมองของเราเครียด อันนี้ไม่แปลก แต่มันจะแปลกที่เราไม่พยายามจด เพียงแต่ใช้ความจำอย่างเดียวดูเหมือนจะไม่เพียงพอ
และพยายามพึงระลึกอยู่เสมอว่า เราเป็นรุ่นน้อง ไม่ว่าจะเจอรุ่นพี่ที่สอนงานดี ใจเย็น พร้อมเสมอที่จะอธิบายซ้ำแล้วซ้ำเล่าโดยไม่ปริปากบ่นหรือแสดงอาการไม่พอใจ หรือเราอาจจะเจอรุ่นพี่ที่ฉุนเฉียว สอนงานไว สอนครั้งเดียวและพูดจาทำให้เรารู้สึกไม่พอใจ จะอย่างไรก็ตาม ให้คิดไว้ว่า เราต้องการความรู้จากเขา พยายามให้เขาสอนให้ได้มากที่สุด ถามได้มากเท่าที่ถามได้ อย่านึกคิดไปเอง วันแรกๆให้พยายามจดให้ได้ทุกคำพูด แล้วเวลากลับบ้านก็ไปทำความเข้าใจกับสิ่งที่เราจดมา ทั้งนี้ ผู้สอนหรือรุ่นพี่เองก็ไม่ควรจะปล่อยพลังใส่รุ่นน้องให้มากเกินไป พึงนึกอยู่เสมอว่า ยิ่งรุ่นน้องเป็นงานไวมากเท่าไหร่ เราก็จะมีคนช่วยเราทำงานมากขึ้นเท่านั้น